Last updated: 24 ส.ค. 2566 | 381 จำนวนผู้เข้าชม |
คุณรู้หรือไม่ว่า กลิ่นตัวหอมๆสามารถสร้างเสน่ห์ และสร้างความจดจำให้กับพวกคุณได้เป็นอย่างดี
เชื่อว่าคุณต้องเคยเจอคนที่ตัวหอม แล้วรู้สึกว่า อยากอยู่ใกล้ ดูมีเสน่ห์จังเลย และในหลายครั้งเมื่อมีกลิ่นหอมที่คุณเคยประทับใจโชยมา คุณจะนึกถึงคนๆนั้นทันที ซึ่งความหอมเป็นเสน่ห์ของทั้งผู้ชายหรือผู้หญิง และอาจมาจากหลากหลายรูปแบบแต่ที่คนส่วนใหญ่นิยมก็คือการฉีดน้ำหอม แล้วเราควรฉีดน้ำหอมแบบไหนให้เหมาะสม น่าดึงดูด เพิ่มความมั่นใจ และติดทนตามประสิทธิภาพของน้ำหอม วันนี้ครูกิ๊ฟมีวิธีมาแนะนำค่ะ
แต่ก่อนที่จะไปรู้วิธีฉีดน้ำหอมให้ติดทน ครูกิ๊ฟขอพาทุกคนไปรู้จักกับประเภทของน้ำหอมกันก่อน เพื่อให้ทุกคนสามารถตัดสินใจซื้อน้ำหอมที่เหมาะกับตนเองได้ง่ายยิ่งขึ้น
น้ำหอมแบ่งออกเป็น 5 ประเภท โดยแบ่งตามความเข้มของหัวน้ำหอมค่ะ ซึ่งราคาก็จะสูงขึ้นตามความเข้มของหัวน้ำหอมด้วยนะคะ
1. Parfum (Perfume) เป็นน้ำหอมที่มีระดับความเข้มข้นของหัวน้ำหอมสูงที่สุด คือ 20-40% เป็นประภทที่หาในท้องตลาดค่อนข้างยาก และราคาสูงมาก
เหมาะสำหรับการใช้ฉีดในโอกาสพิเศษ หรือในวันที่ต้องการให้กลิ่นอยู่หอมติดตัวตลอดวัน ตลอดคืน เพราะกลิ่นจะติดทนได้ประมาณ 12-24 ชั่วโมงเลยค่ะ เช่นไปออกเดท หรือไปงานสำคัญที่ต้องใช้เวลาทั้งวันค่ะ
2. Eau De Parfum (EDP) ความเข้มของหัวน้ำหอมอยู่ที่ 15-20% เหมาะจะใช้ในโอกาสสำคัญ เช่น การออกงาน ไปปาร์ตี้ ความติดทนของกลิ่นหอมจะอยู่ที่ 6-10 ชั่วโมง
3. Eau De Toilette (EDT) เป็นระดับความเข้มของหัวน้ำหอมที่เราจะพบเห็นได้บ่อยที่สุดตามเคาท์เตอร์ขายน้ำหอม และคนส่วนใหญ่นิยมซื้อมาใช้ โดยความเข้มของน้ำหอมอยู่ที่ 5-15% เหมาะกับการใช้ในทุกๆวัน เพราะกลิ่นจะไม่ฉุนแรงเกินไปสามารถฉีดเพิ่มระหว่างวันได้ เช่น การไปทำงาน ไปทานข้าว หรือการออกอีเว้นท์ หรือการประชุมสั้นๆ เพราะเป็นน้ำหอมที่กลิ่นติดอยู่ได้ประมาณ 3-5 ชั่วโมงค่ะ
4. Eau De Cologne เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มอยู่ที่ 2-4% ระยะเวลาของความหอมติดอยู่ได้แค่ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ส่วนใหญ่น้ำหอมประเภทนี้มักมีกลิ่นอ่อนๆ ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบให้มีกลิ่นน้ำหอมติดตัวนานๆ หรือกลิ่นที่แรงเกินไป
5. Eau Faiche เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นน้อยที่สุด อยู่ที่ 1-3% เท่านั้นเป็นน้ำหอมที่ไม่ติดทน ไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องออกไปทำกิจกรรมหรือไปงานที่ใช้เวลานานๆ เพราะความหอมสามารถอยู่ได้ประมาณไม่เกิน1-2 ชั่วโมง กลิ่นก็จะจางจนหมดค่ะ
เมื่อคุณรู้จักน้ำหอมแต่ละประเภทแล้ว คุณก็สามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้ตาม lifestyle ของคุณได้แล้วนะคะ
คราวนี้มาเรียนรู้เทคนิคที่จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กลิ่นหอมติดอยู่กับตัวเราได้นานยิ่งขึ้นกันค่ะ
ทริคที่ 1 ฉีดตามจุดชีพจรต่างๆ เช่น ข้อมือ, ข้อพับต่างๆ บนร่างกาย, ซอกคอบริเวณหลังกกหูลงมา เป็นต้น เพราะจุดชีพจรเป็นจุดที่มีความอุ่นของการหมุนเวียนเลือด ความอุ่นจะช่วยดึงความหอมให้อยู่ติดผิวเรานานกว่าบริเวณอื่น
ทริคที่ 2 การทาวาสลีน หรือโลชั่นก่อนฉีดน้ำหอม
เป็นทริคที่คนส่วนใหญ่ใช้เพื่อช่วยให้น้ำหอมติดทนมากยิ่งขึ้น ยิ่งใช้โลชั่นกลิ่นเดียวกับน้ำหอมด้วยยิ่งดีเลยค่ะ
ทริคที่ 3 ฉีดน้ำหอมลงบนหวี ก่อนหวีผม
ทริคนี้จะช่วยให้คุณมีกลิ่นหอมโชยตลอดเวลาได้ ตามเส้นผมที่สะบัดไปมา โดยการฉีดน้ำหอมใส่ที่หวีก่อนหวีผม จะช่วยให้กลิ่นน้ำหอมติดตามเส้นผมทได้และดีกว่าการฉีดลงไปที่เส้นผมตรงๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการแพ้อีกด้วย
ทริคที่ 4 ฉีดทันทีหลังจากอาบน้ำเสร็จ
หลังจากอาบน้ำเสร็จให้คุณเช็ดตัวหมาดๆ แล้วฉีดน้ำหอมทันที วิธีนี้จะทำให้น้ำหอมติดทนมากยิ่งขึ้น เพราะความชุ่มชื้นของผิวหลังอาบน้ำจะช่วยดูดซึมกลิ่นน้ำหอมไว้
ทริคที่ 5 อย่าถูน้ำหอมบนผิว และฉีดน้ำหอมให้ห่างตัว
การถูผิวหลังฉีดน้ำหอมจะทำให้กลิ่นน้ำหอมจางเร็ว วิธีที่ควรทำคือการฉีดน้ำหอมให้ห่างตัว เพื่อให้น้ำหอมฟุ้งกระจาย นอกจากจะติดตามผิวแล้วบางส่วนอาจจะติดเสื้อผ้า ช่วยให้กลิ่นฟุ้งกระจายได้มากยิ่งขึ้น
นี่คือ 5 ทริคการฉีดน้ำหอมให้ติดทน ที่ครูกิ๊ฟสรุปมาให้ แต่ที่สำคัญคือคุณควรฉีดน้ำหอมในปริมาณที่พอดี เพื่อความหอมที่กำลังดี และไม่ฉุนจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้ทั้งคุณ และคนรอบข้างเวียนหัว จนแทนที่อยากจะอยู่ใกล้คุณ กลานเป็นถอยห่างแทน แบบนี้หมดเสน่ห์เลยนะคะ
#เพราะภาพลักษณ์ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
ติดต่องาน / สนใจCourse ปรับภาพลักษณ์ และบุคลิกภาพส่วนบุคคล หรือ องค์กร
ติดต่อ
Tel: 0815655549
Line: @thereflectionist
•••
ติดตามเทคนิคการปรับภาพลักษณ์ ความรู้ข้อคิด ทัศนคติดีๆ และเรื่องราวสนุกๆ จากครูกิ๊ฟได้ที่
Line: @thereflectionist
IG: thereflectionist.image
TikTok: @krugift.thereflectionist
FB: @TheReflectionist.Image
YouTube: Karima TheReflectionist