Last updated: 23 ก.ค. 2563 | 18185 จำนวนผู้เข้าชม |
“แค่คำพูดดีดี เพียงคำเดียว
อาจมีค่ามากมายกว่าที่คุณคิด”
คำพูดในเชิงบวกเพียงคำเดียวนั้น
อาจเป็นกำลังใจ
อาจเป็นการเยียวยาใจ
อาจเป็นแรงผลักดันอันยิ่งใหญ่
หรือ เป็นแรงบันดาลใจ
เปลี่ยนชีวิตคนๆนึงไปตลอดกาล ก็เป็นได้!!
เพราะฉะนั้น เรื่องวาจา และคำพูดในเชิงบวกนั้นจึงสำคัญมาก
และอีกอย่างนึงคือ คนที่พูดจาดี มีทัศนคติในทางบวก
ยังส่งผลให้คุณมีภาพลักษณ์ที่ดูดีแบบ 360 องศาด้วยค่ะ
.
นักจิตวิทยาได้กล่าวไว้ว่า ความคิด เป็นตัวกำหนด การกระทำ รวมทั้ง "คำพูด" ด้วย
ฉะนั้นหากเราต้องการพูดเชิงบวกเราจึงต้องพัฒนาความคิดให้เป็นไปในเชิงบวกก่อน
เมื่อความคิดหรือทัศนคติของเราได้ถูกพัฒนาให้เป็นไปในเชิงบวกอยู่บ่อยๆ จึงง่ายมากค่ะ ที่เราจะสามารถพัฒนาการพูดให้เป็นผู้พูดเชิงบวกได้
วันนี้ครูกิ๊ฟมี 10 วลีเด็ดในการพูดบวกกับผู้อื่นมาแบ่งปันค่ะ
1. “ฉันผิดเอง” (I am wrong)
“ฉันผิดเอง” เป็นคำพูดที่ช่วยเปลี่ยนทัศนคติตัวเราได้ดีที่สุด เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักไม่ยอมรับว่าตัวเองทำผิด โดยเฉพาะเมื่อต้องยอมรับผิดต่อหน้าคนอื่น จริงๆแล้วเราทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับว่าตัวเองผิด แค่เอ่ยคำว่า “ฉันผิดเอง คุณทำถูกแล้วล่ะ” เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้สัมพันธภาพดีขึ้น ช่วยให้การเจรจาต่างๆ เดินไปข้างหน้า หรือยุติการโต้แย้งที่กำลังเกิดขึ้น
“ฉันผิดเอง” ยังเป็นคำพูดที่แปรเปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นมิตร
2. “ฉันขอโทษ” (I am sorry)
หลายๆ ครั้งที่การกล่าวถ้อยคำสั้นๆ นี้เป็นเรื่องยาก แต่การกล่าวคำนี้ให้เป็นนิสัยเป็นสิ่งคุ้มค่า เพราะโดยธรรมชาติมนุษย์มักปกป้องตัวเอง มักคิดว่าตัวเองถูกเสมอ แต่พอเอ่ยคำนี้ออกมาจะรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก การกล่าวคำว่า “ขอโทษ” แสดงถึงว่าคุณปรารถนาจะกลับมาสานต่อความสัมพันธ์กับบุคคลที่เป็นคู่กรณีกับคุณ
การกล่าว "ขอโทษ" ต้องออกจากส่วนลึกจริงๆ ความรู้สึกนี้ยังเกิดขึ้นพร้อมๆ กับการแสดงออกทั้งสีหน้าและแววตา ไม่ใช่กล่าวแบบขอไปที เพื่อให้จบๆ ลงเท่านั้น
กิ๊ฟเองใช้คำว่า “ขอโทษ” ทั้งชีวิตส่วนตัวและการทำงาน ยกตัวอย่างเวลาที่เรามีโปรโมชั่นแรงๆ และสินค้าไม่พอขาย เพียงกล่าวคำคำนี้จากหนักจะกลายเป็นเบาทันที ลูกค้าพร้อมจะให้อภัยคุณ
3. "คุณทำได้" (You can do it)
ผู้คนจำนวนมากไม่เคยลองทำอะไรเลยเพราะกลัวความล้มเหลว กลัวว่าตัวเองไม่มีชั่วโมงบินมากพอ กลัวเสียงวิพากษ์วิจารณ์หรือหัวเราะเยาะ สำหรับการแก้อาการเหล่านี้ พวกเรารู้กันอยู่แล้วว่า เราต้อง “ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน แล้วก็ลงมือได้เลยคุณทำได้แน่นอน" เมื่อได้ยินคำว่า “คุณทำได้” จะสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นได้ไม่มากก็น้อย
เราควรฝึกพูดคำๆนี้บ่อยๆในทีมงานของคุณ นะคะ
4. “ฉันเชื่อมั่นในตัวคุณ” (I believe in you)
เป็นคำพูดที่ต่อเนื่องจาก “คุณทำได้” (คุณทำได้...ฉันเชื่อมั่นในตัวคุณ) ต่างกันที่เป็นคำพูดนี้จะแสดงถึงความรู้สึกขั้นลึก เป็นคำพูดสำหรับผู้นำที่ใช้พูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ พ่อแม่ที่ส่งต่อความรู้สึกนี้กับลูกๆ หรือเจ้านายที่มีต่อลูกน้องที่กำลังเจออุปสรรคและต้องการความช่วยเหลือ
เราสามารถแสดงให้เห็นถึงความ “เชื่อมั่น” ได้ง่ายๆ อาทิ การเปิดโอกาสให้เพื่อนร่วมงานได้แสดงความสามารถ แม้จะรู้ดีว่าสิ่งที่เสนอมานั้นอาจมีความผิดพลาดเกิดขึ้น
5. “ฉันภูมิใจในตัวคุณ” (I am proud of you)
เพียงเราเปล่งคำนี้ จะพบว่ามีอานุภาพสูงมากในการสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้ฟัง คำพูดที่ว่า “พ่อภูมิใจในตัวลูก” หรือ “ผมภูมิใจในตัวคุณ” "ชั้นภูมิใจในความสำเร็จของคุณ” เป็นการให้กำลังใจที่ดีมาก โดยปกติแล้วคนไทยเราไม่ค่อยชมเชยผู้อื่นด้วยคำพูดนี้เท่าไหร่นัก วันนี้เรามาฝึกพูดคำนี้ให้เป็นนิสัยของคนไทยกันเถอะค่ะ
6. “ขอบคุณ” (Thank you)
คำนี้เป็นคำที่ทุกๆคนอยากได้ยิน และทุกคนสามารถกล่าวได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ
เรากล่าวคำขอบคุณกับผู้ให้บริการ หรือผู้ที่ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้เรา
กล่าวกับผู้ที่ชมเชยเรา ผู้ที่มีน้ำใจ หรือมีเมตตาต่อตัวเรา
แม้ว่าจะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
มีหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า
บ่อยครั้งที่เราใช้เวลานานมาก กว่าจะเปล่งคำคำนี้ออกมาสักครั้ง
แต่ใช้เวลาเดี๋ยวเดียวในการต่อว่าผู้อื่น
อย่ามัวแต่นึกถึงและยุ่งอยู่กับตัวเอง จนลืมขอบคุณผู้อื่นนะคะ
7. “ฉันต้องการคุณ” (I need you)
เป็นอีกคำที่มีอานุภาพยิ่งสำหรับคนคิดบวก
เพราะบ่งบอกถึงการยอมรับในความสามารถผู้อื่น
เป็นคำที่สำคัญมากสำหรับผู้นำ จะเห็นว่าผู้นำหลายๆคน เมื่อมีตำแหน่งสูงขึ้น อาจลืมและมองไม่เห็นความสำคัญของผู้มีตำแหน่งต่ำกว่า
ทั้งที่ในความเป็นจริง ไม่มีทางที่เราจะนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้โดยลำพัง
เมื่อคุณกล่าวคำคำนี้ออกมา
จะเป็นการสร้างบรรยากาศเชิงบวกให้เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นในบ้านหรือที่ทำงาน
8. “ฉันวางใจในตัวคุณ” (I trust you)
ความสำเร็จที่ได้รับขึ้นอยู่กับเราได้มอบความไว้วางใจให้กับใครสักคน ว่าจะสามารถทำงานให้บรรลุเป้าหมาย และไว้ใจได้ว่าจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้ เราจำเป็นต้อง
ไว้วางใจเพื่อนร่วมงาน ครอบครัว รวมไปถึงคนในสังคมรอบตัวเรา
ในสังคมที่ไม่มีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน จะเดินหน้าต่อไปไม่ได้
ความไว้วางใจเป็นคุณสมบัติสำคัญของการเป็นผู้นำเช่นกันค่ะ
เมื่อมีคุณสมบัตินี้ ใครๆก็อยากเป็นเหมือนคุณอยากเป็นเพื่อนคุณ อยากปฏิบัติตามคุณ
อยากทำธุรกิจหรือร่วมลงทุนกับคุณ
กฎทองของคำคำนี้ คือ "จงปฏิบัติต่อผู้อื่น
เหมือนที่อยากให้ผู้อื่นปฏิบัติกับคุณ"
9. “ฉันเคารพคุณ” (I respect you)
คุณจะได้รับความเคารพกลับมาก็ต่อเมื่อให้ความเคารพผู้อื่น
“ฉันเคารพคุณ” จึงเป็นคำพูดที่มีนัยยะทั้ง “ให้” และ “รับ” ในเวลาเดียวกัน
การเคารพยังเป็นการแสดงออกที่ซ่อนเร้นได้ยาก
และสามารถรับรู้ได้โดยสัญชาตญาณ
ผู้นำหลายๆท่านที่ประสบความสำเร็จ
เขาคิดว่าการเคารพผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ความรู้พื้นฐานทางธุรกิจและวิธีการดำเนินองค์กรจะเป็นเรื่องรอง
หากคุณไม่เคารพคนที่คุณทำงานด้วย
ถ้าพวกเขาไม่เคารพคุณ เท่ากับคุณไม่ใช่คนที่เป็นผู้นำ
“เราทุกคนล้วนต้องการเป็นที่เคารพ
ถ้าคุณต้องการความเคารพ แน่นอนคุณต้องเริ่มต้นด้วยการเคารพผู้อื่นก่อน”
10. “ฉันรักคุณ” (I love You)
เป็นคำพูดทรงพลังที่โอบกอดทุกคนไว้ด้วยกันไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกต่อคนรัก
ครอบครัว หรือหมู่เพื่อนสนิท
เป็นคำพูดที่ผู้ฟังรู้สึกอบอุ่นมากกว่า “ฉันวางใจในตัวคุณ”
หรือ “ฉันเชื่อมั่นในตัวคุณ”
เป็นคำที่ใช้พูดกับคนที่คุณรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
การพูดว่า “ฉันรักคุณ” เป็นย่างก้าวสำคัญสำหรับทุกๆ คน สร้างroyalty ให้กับองค์กร ได้ดี
ยิ่งถ้า รัก นั้น เปี่ยมด้วย..เมตตา.. ด้วยแล้ว มันจะทรงพลังและสวยสดงดงามมาที่สุดค่ะ
ทั้ง 10 วลีบวกทรงพลังนี้หลายๆคำเป็นคำที่คุ้นหูแต่อาจไม่คุ้นปาก
เพราะหลายครั้งเรารู้สึกการพูดวลีเหล่านี้มันเคอะเขินและไม่ชินที่จะพูด
แต่ทุกอย่างเราสามารถฝึกฝนได้ค่ะ
.
ตามหลักจิตวิทยา อะไรก็ตามหากเราทำซ้ำๆกันให้ได้ 21 วันมันจะกลายเป็นนิสัยเราได้ในที่สุด "ทัศนคติ ความคิด การพูดในเชิงบวก" ก็เช่นกันค่ะ
#ลองฝึกกันนะคะ
#คิดบวกพูดบวกส่งพลังงานบวก
ครูกิ๊ฟเชื่อว่าทุกคนจะมีมีความสุขมากขึ้น และมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นแบบ 360 องศาแน่นอนค่ะ
.
ด้วยรัก
13 พ.ย. 2566